เผยแพร่ความรู้ให้แก่เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส ประจำปี พ.ศ.2568
ประจำเดือน มีนาคม พ.ศ.2568
ประชาสัมพันธ์ เรื่อง อาการชาที่ห้ามเฉยชา
อาการ “ชา” เป็นอาการทางระบบประสาท ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทรับความรู้สึก สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย หลายคนเคยเกิดอาการนี้ บ้างมีอาการเพียงชั่วครู่ บางคนมีอาการนานแม้จะไม่กระทบการใช้ชีวิตมากนัก แต่ก็เป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกถึงอาการของโรค หรือเป็นสัญญาณแรกของโรค
ชานิ้วก้อย > อาจเกิดจากเส้นประสาทบริเวณรักแร้ที่ยาวไปถึงนิ้วก้อย สาเหตุจากงอและเกร็งข้อศอก
เมื่อถือมือถือเป็นเวลานาน
ชานิ้วโป้ง / ชี้ / กลาง > สัญญาณของโรคเส้นประสาทกดทับที่ฝ่ามือ อาจเกิดจากการใช้งานมือในลักษณะเกร็งนาน ๆ เช่น จับมีด กรรไกร พิมพ์ดีด และมักมีอาการปวดในเวลากลางคืนหรือตื่นนอนตอนเช้า
ชาปลายนิ้ว เกือบทุกนิ้ว > มักชาช่วงกลางคืนหรือก่อนนอน อาจเกิดจากการใช้มือทำงานหนักทำให้กดทับเส้นประสาทตรงข้อมือได้ เช่น เล่นมือถือนาน ๆใช้มือหยิบจับของตลอดวัน หรือเกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทส่วนปลาย
ชาทั้งแขนไปถึงนิ้ว > อาจเกิดจากกระดูกต้นคอเสื่อมและกดทับเส้นประสาท ซึ่งควรรีบไปพบแพทย์ด่วน
ชาทั้งเท้า > อาการนี้ก็ควรต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจเกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท หรือเส้นประสาทบริเวณขาพับถูกกดทับ หรืออักเสบ
ชาปลายนิ้ว ปลายเท้า > อาจเกิดจากอาการปลายประสาทอักเสบหรือเสื่อม หรือขาดวิตามินบี 1 บี 6 หรือบี 12 ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการอักเสบ หรือโรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง, โรคมะเร็ง และจากยาหรือสารพิษ เป็นต้น
ปกติอาการชาที่เกิดร่วมกับอาการปวด ทำให้ผู้ป่วยเกิดความรำคาญหรือรบกวนชีวิตประจำวัน โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์เพื่อรับการรักษา และบรรเทาอาการชา
ที่มาข้อมูล : โรงพยาบาลสุขุมวิท Sukumvit Hospital
